ทดสอบคอนกรีต

ทดสอบคอนกรีต ทดสอบกำลังรับแรงอัดประลัยคอนกรีตโดยวิธีทำลาย (Standard Test Method for Compressive Strength of Concrete)

งานทดสอบคอนกรีตโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบอาคาร ได้ผลลัพธ์แม่นยำ

สำหรับการทดสอบหากำลังรับแรงอัดประลัยของคอนกรีต จะทำการทดสอบโดยวิธีทำลาย (CONCRETE TESTING) โดยทำการเจาะเก็บแท่งตัวอย่างคอนกรีตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดประมาณไม่น้อยกว่า 2 นิ้ว จากส่วนโครงสร้าง เช่น เสา คาน พื้น หรือส่วนคอนกรีตที่ต้องการพิจารณาด้วยเครื่องเจาะระบบ Rotary หัวเจาะ (Diamond Core Bit) แท่งตัวอย่างที่ได้จากการเจาะจะถูกนำมาตัดให้ได้อัตราส่วนความยาวต่อเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2:1 แล้วทำการ Cap ด้วยสาร Capping Compound ก่อนนำส่งไปทดสอบคอนกรีตหาค่ากำลังอัดสูงสุด (Max. Compressive Strength) ด้วยเครื่อง Compression Machine ในห้องปฏิบัติการ

ทำไมจึงควรทดสอบคอนกรีต

  • ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร โดยเฉพาะอาคารเก่าที่ใช้งานมายาวนาน
  • ประเมินสภาพโครงสร้าง ควรตรวจโครงสร้าง ก่อนซ่อมแซมหรือปรับปรุงอาคาร
  • ตรวจสอบสาเหตุของรอยร้าว การทดสอบคอนกรีตสามารถช่วยหาสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยร้าวบนอาคารได้
  • ควบคุมคุณภาพ ผลการทดสอบคอนกรีตจะช่วยบ่งชี้ถึงคุณภาพคอนกรีตในโครงสร้างอาคารได้




หลีกเลี่ยงปัญหาอาคารและบ้านทรุดที่อาจเกิดขึ้น ด้วยบริการทดสอบคอนกรีตจากเรา

  


ขั้นตอนการทดสอบคอนกรีต

การทดสอบคอนกรีต ถือเป็นกระบวนการหนึ่งในการตรวจโครงสร้างอาคาร โดยทีมวิศวกรผู้ตรวจสอบอาคารจาก N.S. PLUS ENGINEERING จะดำเนินงานทดสอบคอนกรีตโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนและชัดเจนยิ่งขึ้น หมดกังวลกับปัญหาบ้านทรุด หรืออาคารทรุดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากคอนกรีตหรือโครงสร้างอาคารไม่แข็งแรง

สแกนตำแหน่งเหล็กเสริม GPR 1. ตรวจสอบตำแหน่งเหล็กเสริม 
ในโครงสร้างด้วย Ground Penetrating Radar (GPR)
เพื่อป้องกันไม่ให้เจาะโดนเหล็ก หากตัวอย่างที่ได้มีเหล็ก ให้ทำการเจาะใหม่
ติดตั้งเครื่องเจาะคอนกรีต 2. ติดตั้งเครื่องเจาะคอนกรีต 
ในตำแหน่งที่จะทำการเจาะเก็บตัวอย่างคอนกรีต เพื่อนำตัวอย่างที่ได้มาใช้ทดสอบคอนกรีต
การเจาะคอนกรีต Coring 3. ทำการเจาะคอนกรีต 
ให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ ในขั้นตอนนี้ต้องเจาะด้วยความระมัดระวังไม่ให้โดนเหล็กและการนำแท่งตัวอย่างออกมาต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการแตกหักเสียหายและตัวอย่างที่เจาะทรงกระบอกต้องมีความสูงต่อขนาเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 2 เท่า 
ตัวอย่างคอนกรีต  4. เก็บตัวอย่างคอนกรีต 
โดยมีขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 2 เท่าของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโดยต้องเก็บด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความเสียหาย เพื่อให้ผลการทดสอบคอนกรีตออกมาแม่นยำมากที่สุด

5. นำแท่งตัวอย่างไปทดสอบที่ห้องปฎิบัติการ 
โดยทำการแต่งหัวคอนกรีต และ Cap หัวให้เรียบ และทดสอบโดยการกดด้วยเครื่อง Compression Machine ก่อนการทดสอบปลายทั้งสองข้างของตัวอย่างคอนกรีตที่ได้จากการเจาะต้องเรียบเป็นระนาบตั้งฉากกับแนวแกน โดยยอมให้มีความคลาดเคลื่อนได้ไม่เกิน 0.5 องศา หรือ 1 มิลลิเมตรต่อระยะ 100 มิลลิเมตร

กรณีที่ปลายของตัวอย่างไม่เรียบ ให้ทำการตัดหรือเคลือบ (Capping) ผิวหน้าของตัวอย่างจนะเป็นระนาบเรียบให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ โดยวัสดุที่ใช้ในการ เคลือบผิวหน้ารับแรงอัดของตัวอย่าง (Capping Compound) ต้องสามารถรับแรงอัดได้สูงกว่าแรงอัดของตัวอย่างคอนกรีต

6.บันทึกผลการทดสอบ 
หลังจากทดสอบจะได้ค่าแรงกดสูงสุด ณ จุดวิบัติ และพื้นที่หน้าตัดคอนกรีตที่รับน้ำหนักของตัวอย่างทดสอบ
กำลังรับแรงอัดประลัย (ksc)
= แรงกดสูงสุด ณ จุดวิบัติ (kg)/พื้นที่หน้าตัดคอนกรีต (sq.cm)

 

 


ตัวอย่างผลการทดสอบคอนกรีต โดยผู้ตรวจสอบอาคารประสบการณ์สูง

หมายเหตุ : กรณีแท่งตัวอย่างทรงกระบอกจากการเจาะมีอัตราส่วนความสูงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.75
ให้ปรับแก้ค่าความต้านทานแรงอัดที่คำนวณได้ โดยคูณ ด้วยค่าคงที่ตามตารางที่แสดงด้านล่าง สำหรับค่าอัตราส่วนความสูงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างค่าที่กำหนดในตาาราง ให้คำนวณหาค่าคงที่โดยใช้วิธ๊เทียบสัดส่วนจากค่าที่กำหนดไว้


ตารางแสดงค่าคงที่สำหรับปรับแก้ค่าความต้านทานแรงอัดสำหรับตัวอย่างที่ได้จากการเจาะ

อัตราส่วนความสูงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางของตัวอย่างที่เจาะ ตัวคูณสำหรับแก้ไขค่ากำลังต้านทานแรงอัด
                   1.75              0.98
                   1.50              0.96
                   1.25              0.93
                   1.00              0.87


*อ้างอิงมาตรฐาน มยผ.1210-50 มาตรฐานการทดสอบกำลังต้านทานแรงอัดของคอนกรีต (Standard Test Method for Compressive Strength of Concrete)

**เกณฑ์การประเมินคุณภาพคอนกรีตที่เจาะมาทดสอบตาม ACI 318-99 ระบุว่าโครงสร้างคอนกรีตที่มีกำลังอัดผ่านเกณฑ์ก็ต่อเมื่อค่ากำลังอัดจากก้อนตัวอย่างมีค่าดังนี้

  1. กำลังอัดจากการทดสอบก้อน Core 3 ก้อนจะต้องได้ค่าเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 85 % ของกำลังอัดรับรอง
  2. ค่ากำลังอัดของก้อนตัวอย่างแต่ละก้อนจะต้องมีค่าไม่ต่ำกว่า 75 % ของกำลังอัดรับรอง

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 277,148