การซ่อมโครงสร้างอาคารเก่าทำอย่างไร

เสกอาคารเก่าให้เหมือนใหม่ด้วยการซ่อมโครงสร้าง

การซ่อมโครงสร้างอาคารเก่า

การซ่อมโครงสร้างอาคารเก่านั้นมีความซับซ้อน เพราะต้องคำนึงถึงการก่อสร้างดั้งเดิม วัสดุที่ใช้ เพราะบางอาคารอาจใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ไม่เป็นมาตรฐาน หรือใช้วัสดุที่หายาก เช่น ไม้เก่าอายุหลายร้อยปี อิฐที่ผลิตด้วยมือ หรือปูนผสมที่มีส่วนผสมพิเศษ ดังนั้น หากมีการซ่อมโครงสร้างที่ไม่ถูกต้องอาจจะทำให้อาคารพังและเกิดอันตรายต่อบุคคลในพื้นที่นั้น ๆ ได้ การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมโครงสร้างอาคารจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารเก่าจะได้รับการซ่อมโครงสร้างที่ถูกต้องและอาคารกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย

ซ่อมโครงสร้างอาคารอย่างไรให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิมและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน

  1. ประเมินสภาพอาคาร
    ก่อนเริ่มการซ่อมโครงสร้างอาคาร ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการประเมินสภาพของอาคารอย่างละเอียดและถูกต้อง เพราะการประเมินโครงสร้างอาคารไม่เพียงแค่ระบุจุดที่ต้องซ่อมแซมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาและขอบเขตความเสียหายที่แท้จริง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนซ่อมโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพ

    ซึ่งการประเมินสภาพอาคารควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมโครงสร้างอาคาร เพราะผู้เชี่ยวชาญมีความรู้ ประสบการณ์ และเครื่องมือที่จำเป็นในการวิเคราะห์โครงสร้างเชิงลึก เช่น กล้องอินฟราเรดเพื่อตรวจหาความชื้นแฝง เครื่องสแกนคอนกรีตด้วยคลื่นเสียงเพื่อหารอยแตกร้าวภายใน หรืออุปกรณ์วัดการทรุดตัวของฐาน โดยผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบทุกส่วนของอาคาร ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงหลังคา เพราะอาจจะมีรอยร้าวที่ดูเล็กน้อยแต่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาใหญ่ เช่น รอยร้าวในกำแพงที่อาจบ่งชี้ถึงการทรุดตัวของฐานราก หรือรอยแตกบนเพดานที่อาจเกิดจากโครงหลังคาที่อ่อนแอ

    นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังประเมินการทรุดตัวของพื้น การเอียงของเสา หรือการบิดงอของคาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มองเห็นไม่ชัดด้วยตาเปล่า แต่สามารถเป็นอันตรายร้ายแรงหากไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งนอกจากโครงสร้างหลัก ผู้เชี่ยวชาญยังจะประเมินระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ระบบไฟฟ้าที่เก่าและอาจเป็นอันตราย ท่อน้ำที่รั่วซึมและทำให้เกิดความชื้นในโครงสร้าง หรือระบบระบายอากาศที่ไม่เพียงพอซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อราและทำลายโครงสร้าง

    ภายหลังจากการตรวจสอบ ผู้เชี่ยวชาญจะวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด ระบุสาเหตุของปัญหา และประเมินความเสี่ยงต่อโครงสร้าง และให้คำแนะนำในการซ่อมแซมที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงเทคนิคและวัสดุที่จะใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างเดิมของอาคาร การประเมินสภาพอาคารโดยผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาและมีค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยให้การซ่อมโครงสร้างมีประสิทธิภาพ ตรงจุด และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

  2. เลือกวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสม
    หลังจากที่ประเมินสภาพโครงสร้างอาคารแล้ว ก็ต้องมีการเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการซ่อมโครงสร้างอาคาร โดยอาจจะเลือกวัสดุที่มีความใกล้เคียงกับวัสดุเดิมเพื่อให้อาคารมีรูปลักษณ์คงเดิมหรือเปลี่ยนเป็นวัสดุที่มีคุณภาพมากกว่าเดิมก็ได้ แต่ไม่ควรเลือกวัสดุโดยพิจารณาเพียงแค่เรื่องค่าใช้จ่าย เพราะอาจจะได้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ เมื่อนำมาซ่อมโครงสร้างอาคารอาจจะทำให้อาคารไม่ได้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

    โดยในการเลือกวัสดุอุปกรณ์ต้องใส่ใจรายละเอียดมาก ๆ ดังนั้นการใช้บริการบริษัทที่รับซ่อมโครงสร้างอาคารที่มีประสบการณ์การซ่อมโครงสร้างอาคารเป็นผู้ช่วยเลือกวัสดุในการซ่อมโครงสร้างอาคารจะทำให้ได้วัสดุที่เหมาะสมในการซ่อมแซมและเพิ่มความสะดวกมากกว่าการเลือกวัสดุซ่อมโครงสร้างด้วยตนเอง

  3. ซ่อมโครงสร้าง
    การซ่อมโครงสร้างเป็นกระบวนการที่ละเอียดและซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมในจุดใดก็ตาม เพราะความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงของโครงสร้างทั้งหมด

    นอกจากนี้ ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุดในการซ่อมโครงสร้าง เพราะการซ่อมโครงสร้างมักมีการใช้สารเคมีหลายชนิด เช่น เรซินอีพ็อกซี่สำหรับอุดรอยร้าว สารกันสนิมสำหรับเหล็กเสริม หรือสารเคลือบไม้เพื่อป้องกันปลวกและเชื้อรา สารเคมีเหล่านี้บางชนิดอาจมีความเป็นพิษ ระคายเคือง หรือไวไฟ การสัมผัสโดยตรงหรือการสูดดมไอระเหยอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ หรือในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพระยะยาวได้

    ด้วยเหตุนี้การป้องกันตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่เหมาะสม เช่น หมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย หน้ากากป้องกันสารเคมี ถุงมือ และชุดป้องกัน ดังนั้นการให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมโครงสร้างอาคารเป็นผู้ดำเนินการแทนจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจะมีเทคนิคต่าง ๆ เช่น การเสริมเหล็ก การฉีดเรซินเพื่ออุดรอยร้าว หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนโครงสร้างที่เสียหาย โดยคำนึงถึงความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคาร นอกจากนั้นบริษัทที่ให้บริการซ่อมโครงสร้างยังรวมถึงการซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ประปา และระบบการระบายอากาศอีกด้วย

  4. ป้องกันความเสียหายในอนาคต
    การดูแลอาคารเก่าไม่ได้จบลงที่การซ่อมโครงสร้างเท่านั้น แต่ยังต้องมีการป้องกันความเสียหายในระยะยาวด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมโครงสร้างอาคารจะให้คำแนะนำที่ครอบคลุมในการดูแลรักษาอาคาร การป้องกันปลวกและแมลงต่าง ๆ ที่อาจทำลายโครงสร้างไม้ได้ รวมถึงวิธีการทำความสะอาดโครงสร้างอย่างถูกวิธี เพราะวัสดุในอาคารเก่าอาจบอบบางหรือมีปฏิกิริยากับสารทำความสะอาดบางชนิด

    การซ่อมโครงสร้างอาคารเก่าเป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ การใช้บริการซ่อมโครงสร้างอาคารจากผู้เชี่ยวชาญไม่เพียงช่วยให้อาคารของคุณแข็งแรงและปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาคุณค่าเดิมของอาคารได้

ดังนั้นหากคุณมีอาคารเก่าที่ต้องการซ่อมโครงสร้าง สามารถติดต่อสอบถามหรือใช้บริการได้ที่ N.S.PLUS ENGINEERING CO.,LTD. ผู้เชี่ยวชาญงานตรวจโครงสร้าง ตรวจบ้านก่อนโอน ตรวจคอนโด ไปจนถึงงานซ่อมโครงสร้าง งานแก้ไขอาคารทรุด บ้านทรุด หรือต่อเติมจุดที่ทรุด เราก็รับทำ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน และการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพ จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการบริการด้วยมาตรฐานและคุณภาพสูง จากทีมงานวิศวกรที่มีความรู้และประสบการณ์สูงทางด้านวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรมในการตรวจสอบอาคารเป็นอย่างดี

สนใจใช้บริการหรือติดต่อสอบถามเรื่องซ่อมโครงสร้าง ได้ที่
Website : https://www.nsplusengineering.com
โทร : 086-307-5103, 085-114-3733
Facebook : nsplusengineering
Line : @nsplus
Email : infos.nsplus@gmail.com

Visitors: 264,744